MBTI คืออะไร? ทำไมต้องทดสอบ ...ทางลัดรู้จักตัวตนกันและกันในยุคดิจิทัล

อยากรู้จักกันไม่ต้องขอเบอร์ เดี๋ยวส่งผล MBTI ให้เธอดูก็พอ ฮิ้วว~ เชื่อไหม...วัยรุ่นในประเทศเกาหลีใต้ ใช้ผลทดสอบ MBTI ในการเลือกคนที่จะเดตด้วยนะ!

ฟังแล้วไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะครับ แต่ที่ผล MBTI ได้รับความนิยมมากในกลุ่มวัยรุ่น นั่นก็เพราะว่าการแชร์ MBTI ของกันและกัน จะทำให้พวกเขาได้ค้นหาคนที่ใช่ เหมาะสมในเวลารวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเรียนรู้กันมากมายนั่นเองล่ะครับ

นอกจากเรื่องราวของความรักแล้ว “MBTI” ยังถือเป็นสิ่งหนึ่งที่บริษัทยักษ์ใหญ่ในหลากหลายประเทศ ให้ความสำคัญมาก ๆ เพื่อคัดเลือกผู้สมัครงานนั่นเองล่ะครับ

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลาย ๆ คนคงกำลังสงสัยว่า ทำไมเจ้า “MBTI” ถึงได้สำคัญกับชีวิตในปัจจุบันของเราขนาดนี้
...ไม่รอช้าตามผมมาค้นหาคำตอบด้วยกันเลยครับ

MBTI คืออะไรกันแน่? เป็นแค่บททดสอบบทหนึ่งหรือเปล่า

ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยลองเทสต์แบบทดสอบนี้กันมาบ้างแล้วแน่นอน แต่จริง ๆ แล้ว MBTI มันคืออะไรกันแน่นะ?

"MBTI หรือ Myers-Briggs Type Indicator" เป็นแบบทดสอบประเภทบุคลิกภาพ ตามทฤษฎีทางจิตวิทยาที่สามารถประเมินได้ด้วยตนเอง โดยมุ่งเน้นให้เกิดความเข้าใจตัวเองและผู้อื่นนั่นเองครับ โดยบุคลิกโดยทั่วไปของเราจะมีทั้งหมด 16 ประเภท เช่น INFJ, ENFP, ISTP, ESTJ เป็นต้น และสามารถแบ่งย่อยเป็น 4 ตัวชี้วัด ได้แก่

1. ความถนัดด้านการได้รับพลังงาน หรือบุคลิกภาพ : Extroverts (E) หรือ Introverts (I)
2. ความถนัดด้านการรับรู้สิ่งต่าง ๆ : Sensors (S) หรือ Intuitives (N)
3. ความถนัดด้านการตัดสินใจ : Thinkers (T) หรือ Feelers (F)
4. ความถนัดด้านไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต : Judgers (J) หรือ Perceivers (P)

เมื่อเราทำแบบทดสอบเสร็จแล้ว เราก็จะได้ตัวอักษรมาทั้งหมด 4 ตัว ซึ่งกำหนดเป็นตัวละคร นิสัย จุดเด่น และเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ทั้งหมด 16 ตัวละคร ซึ่งแต่ละคาแรกเตอร์ถือเป็นตัวแทนบุคลิกภาพของเรานั่นเองล่ะครับ

โดยเราสามารถเข้าไปทำแบบทดสอบฟรีได้ที่ https://www.16personalities.com/th ได้เลยครับผม

แล้วตัวอักษร INTJ, ENTP, ENFJ, ISTP และอื่น ๆ อีกมากมายเหล่านี้ สำคัญยังไงในปัจจุบันกันนะ? ตามมาหาคำตอบกันต่อข้างล่างน้ได้เลยครับ

MBTI สำคัญยังไง? ทำไมถึงควรทดสอบ

ความน่าสนใจของแบบทดสอบ MBTI ก็คือชุดทดสอบที่ทำให้เราเข้าใจตัวเองได้ละเอียดมากขึ้นนี่แหละครับ หลาย ๆ คนที่ยังไม่เคยทำเทสต์ อาจคิดว่าเป็นการทดสอบแค่ผิวเผิน แต่ความจริงแล้วคำถามในแต่ละข้อล้วนอิงจากเหตุการณ์ในช่วงเวลาที่เกือบปัจจุบัน และลักษณะนิสัยโดยทั่วไปที่ทุกคนต้องเผชิญกับภาวะเหล่านั้น แต่ข้อสำคัญของการทำแบบทดสอบคือ “เราควรตอบอย่างตรงไปตรงมา และไม่พยายามตอบแบบกลาง ๆ นะครับ” เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำที่สุดนั่นเอง

ซึ่งเมื่อทำแบบทดสอบเสร็จแล้ว ก็จะทำให้เราเข้าใจบุคลิกของตัวเองมากขึ้น เข้าใจความถนัด ความสามารถ และจุดเด่นของตัวเอง ที่อาจนำไปใช้ต่อยอดพัฒนา พร้อมค้นหาอาชีพที่เหมาะสมในอนาคตได้นั่นเองล่ะครับ

...แล้ว MBTI สำคัญต่อการทำงานยังไงบ้าง?

เนื่องจาก MBTI ถือเป็นแบบทดสอบกลางที่เหมือนกันทั่วโลก และแน่นอนว่าในทุก ๆ องค์กรย่อมมีพนักงานหลากหลายบุคลิก หลากหลาย Working Style ที่ต้องมาทำงานร่วมกัน ดังนั้น เพื่อให้ทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด บททดสอบ MBTI จึงเป็นตัวช่วยให้หัวหน้างานสามารถแบ่งหน้าที่ และมอบหมายงานได้ตรงความถนัดของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้นนั่นเองล่ะครับ

รวมทั้งยังดีต่อการนำไปต่อยอดพัฒนาบุคลากรในด้านต่าง ๆ เช่น การพัฒนาภาวะผู้นำ การจัดการความสัมพันธ์ในองค์กร การรักษาพนักงาน การให้คำแนะนำด้าน Career Path และการสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพอีกด้วยครับ

นอกจากการทำงานในองค์กรแล้ว ในวงการไอดอลหรือศิลปินยังใช้ MBTI ในการวางกลยุทธ์โปรโมท เพื่อดึงจุดเด่นของศิลปินให้แฟนคลับได้รู้จักตัวตนของศิลปินในมุมที่ดีที่สุด และถือเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่จะช่วยสร้างชื่อเสียงให้พวกเขาได้เช่นกันครับ เช่นเดียวกับหลาย ๆ แบรนด์ที่ให้บริการอย่างสายการบินหนึ่งของประเทศเกาหลีใต้ ที่นำจุดแข็งของบุคลิกภาพของพนักงาน มาเพื่อรับรอง Service & Experience ที่ลูกค้าจะได้รับจากการบริการของแบรนด์นั่นเองล่ะครับ

เห็นไหมล่ะครับ ถึงแม้ว่า MBTI จะมีอิทธิพลในยุคดิจิทัลมากจริง ๆ และที่สำคัญยังเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้เราได้พัฒนาตัวเองได้ตรงจุดมากขึ้นอีกด้วย แต่ถึงยังไงก็ตาม บุคลิกเหล่านี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพแวดล้อมและประสบการณ์ที่เราเจอ ณ ช่วงเวลานั้น ๆ เราจึงควรทำแบบทดสอบกันบ่อย ๆ ทุก 2 - 3 ปีก็ได้นะครับผม อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้เราได้รู้จักตัวเองในทุกช่วงเวลาของชีวิตนั่นเองล่ะครับ :)