1. ข้อความทั่วไป
1.1 ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการนี้ ผู้ใช้บริการตกลงยอมรับด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ และให้มีผลบังคับใช้ระหว่างบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ในฐานะผู้ให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตนกับผู้ใช้บริการ
1.2 ภายใต้ข้อตกลงและเงื่อนไขฉบับนี้ ผู้ใช้บริการมีหน้าที่และความรับผิดชอบตามรายละเอียดที่กำหนดไว้ดังนั้น ผู้ใช้บริการควรอ่านและทำความเข้าใจข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้ Mobile ID ก่อนตกลงใช้
1.3 การใช้ Mobile ID เป็นความประสงค์ของผู้ใช้บริการ และผู้ใช้บริการตกลงยอมรับที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงและเงื่อนไขดังกล่าวทั้งหมดนี้ หากไม่ประสงค์จะยอมรับผูกพันตามข้อตกลงและเงื่อนไขสามารถยุติการเข้าชมและการใช้ได้
1.4 ผู้ใช้บริการรับทราบและยอมรับว่าการใช้ Mobile ID โดยการยอมรับข้อตกลงและงื่อนไขฉบับนี้ ถือว่าผู้ใช้บริการได้อ่าน เข้าใจ และตกลงที่จะผูกพันนเป็นผู้ใช้บริการและปฏิบัติตามข้อตกลงและเงื่อนไขฉบับนี้ทุกประการ
1.5 ผู้ใช้บริการตามข้อตกลงและเงื่อนไขฉบับนี้ต้องเป็นบุคคลธรรมดาที่บรรลุนิดิภาวะหรือถือว่าเป็นผู้บรรลุนิดิภาวะตามที่กฎหมายกำหนดไว้ กรณีผู้ใช้บริการที่เป็นผู้ยาว์ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองหรือผู้แทนโดยชอบธรรมมาเรียบร้อยแล้วก่อนการใช้ Mobile ID
2. คำนิยาม
2.1 "ผู้ให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตน (Identity Provider) " หมายถึง บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ("บริษัท" ผู้ให้บริการหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่เครือข่าย AIS ซึ่งทำหน้าที่พิสูจน์และยืนยันด้วตนด้วยMobile ID ให้แก่ผู้ใช้บริการ
2.2 "ผู้ให้บริการทำธุรกรรม (Relying Party)" หมายถึง นิติบุคคล หน่วยงาน หรือองค์ของรัฐ ที่ให้บริการทำธุรกรรม โดยอาศัย Mobile ID และผลการยืนยันตัวตนจากผู้ให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตน
2.3 "ผู้ใช้บริการ" หมายถึง บุคคลผู้ซึ่งลงทะเบียนใช้ Mobile ID และผ่านการพิสูจน์ตัวตนกับบริษัท
2.4 "Mobile ID" หมายความถึง หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ผู้ใช้บริการได้นำมาลงทะเบียนกับบริษัทผ่านกระบวนการพิสูจน์และยืนยันตัวนทางดิจิทัล ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) เป็นผู้จัดให้มีขึ้นMobile ID เป็นสิ่งที่ใช้บ่งบอกหรือจำแนกบุคคลในการทำธุรกรรมออนไลน์และเชื่อมโยงกับผู้ลงทะเบียน/แสดงตนของหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถใช้ได้ในลักษณะทำนองเดียวกับสิ่งที่ใช้ยืนยันตนตนทางดิจิทัลประเภทอื่นในการเข้าใช้ทำธุรกรรมออนไลน์กับนิติบุคคล หน่วยงานหรือองค์กรของรัฐที่ผู้ใช้บริการเข้าเป็นคู่สัญญาหรือใช้บริการทำธุรกรรมต่างI ที่ยอมรับการพิสูจน์และยืนยันตัวโดยอาศัย Mobile ID จากบริษัท
2.5 "ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายความถึง ชื่อ สกุล ที่อยู่ ข้อมูลในบัตรประชาชน ภาพถ่าย หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ใช้บริการ และให้หมายความรวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ใช้บริการที่สามารถระบตัวผู้ใช้บริการหรืออาจระบุตัวผู้ใช้บริการนั้นได้ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม ข้อมูลการทำธุรกรรม และ/หรือ ข้อมูลใดๆ ของผู้ใช้บริการที่ให้ไว้แก่บริษัท
2.6 "รหัสประจำตัว" หมายถึง Login Name หรือ Username, รหัสผ่าน (Password), PIN - Person Identification Number, รหัส OTP - One Time Password, รูปใบหน้า เพื่อใช้ยืนยันตัวตนในการเข้าทำรายการ
2.7 "เหตุสุดวิสัย" หมายความถึง เหตุใดๆ อันอยู่นอกเหนือการควบคุมของผู้ให้บริการ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการให้บริการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ รวมถึงเป็นเหตุให้เกิดข้อขัดข้อง หรือข้อมูลผิดพลาด เช่น ระบบคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการหรือระบบสื่อสารขัดข้องเพราะกระแสไฟฟ้าขัดข้อง หรือปัญหาด้านพลังงาน การกระทำของบุคคลภายนอก ไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลที่เป็นอันตรายต่าง (Harmful Data) ซึ่งเหตุดังกล่าวไม่ได้มีสาเหตุมาจากการที่ผู้ให้บริการไม่ดูแลรักษาระบบคอมพิวเตอร์อย่างเพียงพอตามมาตรฐาน
2.8 "สำนักงานบริการ สำนักงานสาขา" หมายถึง สำนักงานบริการ สำนักงานสาขา หรือศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ของบริษัท
3. การลงทะเบียนขอ Mobile ID
3.1 การลงทะเบียนเพื่อขอ Mobile ID ผู้ใช้บริการต้องดำเนินการ ณ สำนักงานบริการ สำนักงานสาขาของบริษัทหรือช่องทางอื่นใดที่บริษัทจะกำหนดเพิ่มเติม โดยกระบวนการและขั้นตอนการลงทะเบียนพิสูจน์และยืนยันตัวตนเป็นไปตามเงื่อนไขที่สำนักงาน กสทช. กำหนด และตามข้อกำหนดของการพิสูจน์ตัวตน ตามมาตรฐานธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เลขที่ ขมธอ. 18-2561 ขมธอ. 19-2561 และ ขมธอ. 20-2561 ออกโดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
3.2 ผู้ใช้บริการตกลงให้บริษัทเก็บรวบรมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อบริษัทและหรือผู้ให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือตรวจสอบว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นของบุคคลที่มีอยู่จริง และเป็นข้อมูลหลักฐานที่เป็นของแท้ (Authenticity) มีสถานะใช้งานอยู่ (Validity) และมีความถูกต้อง (Accuracy)
3.3 บริษัทมีหน้าที่ตรวจสอบและมีการบันทึกภาพของผู้ใช้บริการเพื่อพิสูจน์ว่าผู้ใช้บริการเป็นเจ้าของหลักฐาน
3.4 การลงทะเบียนเพื่อขอ Mobile ID กับบริษัท ผู้ใช้บริการต้องเป็นบุคคลเดียวกับผู้มีชื่อจดทะเบียนโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบชำระค่าบริการรายเดือน ( Postpaid) หรือมีชื่อเป็นผู้แสดงตนโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบชำระค่าบริการล่วงหน้า (Prepaid) เครือข่าย AIS
3.5 ผู้ใช้บริการต้องใช้หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่เครือข่าย AIS เท่านั้นในการลงทะเบียนเพื่อขอ Mobile ID
3.6 ผู้ใช้บริการสามารถยื่นคำขอมี Mobile ID กับบริษัทได้ ตามจำนวนหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ลูกค้าลงทะเบียนหรือแสดงตนเป็นผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ 1 เลขหมาย สามารถขอมี Mobile ID ได้เพียง 1 Mobile ID เท่านั้น
3.7 เมื่อผู้ใช้บริการลงทะเบียนสำเร็จ บริษัทจะส่ง SMS ลิงค์การตั้งรหัสประจำตัว ไปยังหมายเลขทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ผู้ใช้บริการใช้ในการลงทะเบียนขอ Mobile ID เพื่อให้ผู้ใช้บริการดำเนินการกำหนดรหัสประจำตัวสำหรับ Mobile ID
3.8 หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนการลงทะเบียนขอ Mobile ID ผู้ใช้บริการจะต้องเก็บรักษา Mobile ID และรหัสประจำตัว ไว้เป็นความลับและไม่เปิดเผยหรือกระทำการใดๆ ที่อาจทำให้ผู้อื่นล่วงรู้ และผู้ใช้บริการไม่สามารถมอบหมายหรือโอนสิทธิในการใช้ให้แก่ผู้อื่นได้
3.9 ผู้ใช้บริการตกลงว่าจะเป็นผู้รับผิดชอบหากมีบุคคลอื่นใดใช้ Mobile ID ของผู้ใช้บริการ โดยบริษัทไม่ต้องรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
4. การบริหารจัดการ Mobile ID
เมื่อผู้ใช้บริการลงทะเบียนขอมี Mobile IDกับบริษัทเสร็จสิ้น ผู้ใช้บริการสามารถดำเนินการด้วยตนเองหรือร้องขอให้บริษัทดำเนินการต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน My AI โดยผู้ใช้บริการต้องใส่หัสประจำตัวให้ถูกต้อง พร้อมปฏิบัติตามขั้นตอน วิธีการ และเงื่อนไขการใช้ที่บริษัทกำหนดอย่างถูกต้องครบถ้วนทุกครั้ง และหากใส่รหัสประจำตัวไม่ถูกต้องเกินจำนวนครั้งที่บริษัทกำหนดไว้ (แล้วแต่กรณี ) ผู้ใช้บริการจะไม่สามารถดำเนินการต่อได้ชั่วคราว ทั้งนี้ผู้ใช้บริการต้องติดต่อสำนักงานบริการ หรือสำนักงานสาขา หรือทางโทรศัพท์ หรือโดยเครื่องมือสื่อสารอย่างอื่น หรือโดยวิธีการอื่นใดที่บริษัทจะกำหนดเพิ่มเติมเพื่อการยืนยันตัวตนใหม่การระงับชั่วคราวจากเหตุดังกล่าวข้างต้น เพื่อป้องกัความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้บริการ ดังนั้นจะไม่เป็นเหตุให้ผู้ใช้บริการสามารถช้สิทธิเยกร้องค่าเสียหายใดๆ จากบริษัทได้การดำเนินการต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน my AIS สำหรับ Mobile ID มีดังต่อไปนี้
4.1 การตรวจดูข้อมูลการใช้ Mobile ID กับผู้ให้บริการทำธุรกรรม (Relying Party)ผู้ใช้บริการสามารถตรวจการตรวจดูข้อมูลการใช้ Mobile ID ที่ทำธุรกรรมต่างๆ กับผู้ให้บริการทำธุรกรรม (Relying Party) ที่เป็นคู่สัญญากับบริษัทได้ โดยผู้ใช้บริการสามารถเยกดูรายการย้อนหลังได้ไม่เกิน 6 เดือนหากเป็นข้อมูลที่เกินกว่าช่วงระยะเวลาที่กำหนดไว้ ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อสำนักงานบริการหรือศูนย์บริการของบริษัทเพื่อขอรับรายละเอียดข้อมูล ทั้งนี้ บริษัทอาจเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการดำเนินการได้กรณีที่ผู้ใช้บริการขอตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังเกินกว่าที่กำหนดไว้
4.2 การเปลี่ยน และลืมรหัสประจำตัวผู้ใช้บริการผู้ใช้บริการสามารถเปลี่ยนรหัสประจำตัวที่ใช้ในการทำรายการหรือทำธุรกรรมต่างๆ ด้วยตนเองบนแอปพลิเคชันmy AIS ได้ตลอดเวลาตามวิธีการที่บริษัทกำหนด ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการจะต้องรักษารหัสประจำตัว ไว้เป็นความลับและไม่เปิดเผยหรือกระทำการใดๆ ที่อาจทำให้ผู้อื่นทราบหัสประจำตัวดังกล่าวผู้ใช้บริการสามารถเปลี่ยนแปลง Login Name หรือ Username และ/หรือ รหัสผ่าน (Password) และ/หรือ PIN
- Person Identification Number และ/หรือ รหัสที่เกี่ยวข้องกับ Mobile ID ตามวิธีการและเงื่อนไขที่ผู้ให้บริการกรณีผู้ใช้บริการมรหัสประจำตัวผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการต้องดำเนินการเพื่อขอกำหนดรหัสประจำตัวใหม่ โดยต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่บริษัทกำหนดไว้และทำการยืนยันตัวตนด้วยหมายเลข โทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ใช้บริการ และภาพถ่ายของผู้ใช้บริการ เพื่อให้บริษัทตรวจสอบว่าเป็นผู้ใช้บริการที่เคยลงทะเบียน Mobile ID กับบริษัทหรือไม่ หากตรวจสอบแล้วว่าข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ถูกต้องตรงกันผู้ใช้บริการจะสามารถดำเนินการตั้งรหัสประจำตัวใหม่ได้
4.3 การขอยกเลิกการใช้ Mobile IDผู้ใช้บริการสามารถยกเลิก Mobile ID เมื่อใดก็ได้ โดยผู้ใช้บริการตกลงที่จะดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้โดยการยืนยันตัวตนด้วย หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ใช้บริการ และภาพถ่ายของผู้ใช้บริการ เพื่อให้บริษัทตรวจสอบว่าเป็นผู้ใช้บริการที่เคยลงทะเบียนใช้ Mobile ID กับบริษัทหรือไม่ผู้ใช้บริการยอมรับว่าการยกเลิก Mobile ID ถือว่าผู้ใช้บริการไม่ประสงค์จะใช้ Mobile ID ที่ลงทะเบียนไว้กับบริษัทด้วยต่อไป ซึ่งจะมีผลทำให้ผู้ใช้บริการไม่สามารถใช้ Mobile ID ที่บริษัทดำเนินการให้ในการทำธุรกรรมต่างๆ กับผู้ให้บริการทำธุรกรรม (Relying Party) ที่เป็นคู่สัญญากับบริษัทการยกเลิก Mobile ID ของผู้ใช้บริการ จะไม่เป็นการลบล้างหรือปลดเปลื้องและยังมีผลผูกพันการกระทำธุรกรรมใดๆ ที่ผู้ใช้บริการได้กระทำไว้โดยการเข้าใช้ Mobile ID
5.สิทธิของผู้ใช้บริการเกี่ยวกับ Mobile ID
5.1 การใช้ Mobile ID เพื่อการทำธุรกรรมกับผู้ให้บริการทำธุรกรรม (Relying Party-RP)กรณีผู้ใช้บริการขอใช้บริการหรือทำธุรกรรมออนไลน์กับผู้ให้บริการทำธุรกรรม (Relying Party-RP) โดยใช้Mobile ID ผู้ใช้บริการต้องให้ความยินยอมไว้กับผู้ให้บริการทำธุรกรรม (Relying Party-RP) เพื่อวัตถุประสงค์ให้ผู้ให้บริการทำธุรกรรม (Relying Party-RP) มีสิทธิขอพิสูจน์และยืนยันตัวตนจากบริษัทตามเงื่อนไขที่ผู้ให้บริการทำธุรกรรม(Relying Party-RP) ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการ และยินยอมให้บริษัทตรวจสอบและส่งผลการยืนยันตัวตนกลับไปให้ผู้ให้บริการทำธุรกรรม (Relying Party-RP)ในกรณีนี้ผู้ใช้บริการปฏิสธการให้ความยินยอมกับผู้ให้บริการทำธุรกรรม (Relying Party-RP) ในการขอพิสูจน์และยืนยันตัวตนจากบริษัทและยินยอมให้บริษัทตรวจสอบและส่งผลการยืนยันตัวตนกลับไปให้ผู้ให้บริการทำธุรกรรม(Relying Party-RP) ผู้ใช้บริการจะไม่สมารถทำธุรกรรมทางออนไลน์ต่อไปได้ และผู้ให้บริการทำธุรกรรม (RelyingParty-RP) อาจจะไม่สามารถที่จะมอบผลิตภัณฑ์หรือบริการตามที่ผู้ใช้บริการต้องการได้
5.2 การยกระดับความน่าเชื่อถือ Mobile ID
5.2.1 ผู้ใช้บริการมีสิทธิขอยกระดับความน่าเชื่อถือ Mobile ID ที่บริษัทเป็นผู้ดำเนินการได้ โดยผู้ใช้บริการต้องติดต่อแจ้งความประสงค์ให้บริษัททราบ ณ สำนักงานบริการ สำนักงานสาขาของบริษัท หรือผ่านช่อทางหรือวิธีการอื่นใดที่บริษัทจะกำหนดเพิ่มเติม
5.2.2 เมื่อผู้ใช้บริการร้องขอให้บริษัทดำเนินการยกระดับความน่าเชื่อถือ Mobile ID ผู้ใช้บริการตกลงให้บริษัทเก็บรวมรวมใช้และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงอาจมีการบันทึกภาพของผู้ใช้บริการ เพื่อใช้ในการตรวจสอยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการและตรวจสอบสถานะ Mobile ID ของผู้ใช้บริการก่อนบริษัทจะดำเนินการตามที่ผู้ใช้บริการทั้งนี้ ในวันที่ผู้ใช้บริการขอยกระดับความน่าเชื่อถือ Mobile ID ของผู้ใช้บริการต้องมีสถานะ "ใช้งาน" อยู่จริงอย่างไรก็ตามผู้ใช้บริการจะไม่สามารถขอลดระดับความน่าเชื่อถือ Mobile ID ตามที่ลงทะเบียนไว้กับบริษัทได้
5.2.3 ผู้ใช้บริการตกลงว่าเมื่อผู้ใช้บริการขอยกระดับความน่าเชื่อถือ Mobile ID บริษัทจะต้องดำเนินการยกเลิกMobile ID เดิมของผู้ใช้บริการ และบริษัทจะดำเนินการลงทะเบียน Mobile ID ใหม่ให้กับผู้ใช้บริการ ตามขั้นตอนการลงทะเบียนขอ Mobile ID ตามข้อ 3
5.3 การแก้ไขข้อมูลที่ใช้ลงทะเบียน Mobile ID
5.3.1 ผู้ใช้บริการสามารถขอแก๋ไขหรือขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่ใช้ลงทะเบียน Mobile ID ได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
- กรณีผู้ใช้บริการมีการเปลี่ยนชื่อ-สกุล
- กรณีผู้ใช้บริการเปลี่ยนบัตรประจำตัวประชาชน หรือเปลี่ยนเล่มหนังสือเดินทาง
- กรณีผู้ใช้บริการเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ผู้ใช้บริการใช้ในการสมัครลงทะเบียนขอ MobileID ไว้กับบริษัท
5.3.2 การขอแก๋ไขข้อมูลผู้ใช้บริการต้องติดต่อแจ้งความประสงค์ให้บริษัท ณ สำนักงานบริการ สำนักงานสาขาของบริษัท หรือผ่านช่องทางหรือวิธีการอื่นใดที่บริษัทจะกำหนดเพิ่มเติม
5.3.3 เมื่อผู้ใช้บริการร้องขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลที่ใช้ลงทะเบียน Mobile ID ผู้ใช้บริการตกลงให้ให้บริษัทเก็บรวมรวมใช้และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงอาจมีการบันทึกภาพของผู้ใช้บริการ เพื่อใช้ในการตรวจสอบยืนยัน
ตัวตนของผู้ใช้บริการและตรวจสอบสถานะ Mobile ID ของผู้ใช้บริการก่อนบริษัทจะดำเนินการตามที่ผู้ใช้บริการร้องขอทั้งนี้ ในวันที่ผู้ใช้บริการขอแก่ไขข้อมูล Mobile ID ของผู้ใช้บริการต้องมีสถานะ "ใช้งาน" อยู่จริง
5.3.4 ผู้ใช้บริการตกลงว่าการขอแก่ไขข้อมูลที่ใช้ลงทะเบียน Mobile ID บริษัทจะต้องดำเนินการยกเลิก MobileID เดิมของผู้ใช้บริการ และบริษัทจะดำเนินการลงทะเบียน Mobile ID ใหม่ให้กับผู้ใช้บริการ ตามขั้นตอนการลงทะเบียนเพื่อขอ Mobile ID ตามข้อ 3
5.4 การต่ออายุ Mobile ID
5.4.1 ผู้ใช้บริการตกลงยอมรับว่า Mobile ID ที่ลงทะเบียนไว้กับบริษัทจะสิ้นสุดการตามวันหมดอายุของบัตรประจำตัวประชาชน โดยที่บริษัทไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ บริษัทอาจมีการแจ้งเดือนให้ผู้ใช้บริการทราบตามดุลยพินิจของบริษัท
5.4.2 กรณีผู้ใช้บริการประสงค์จะต่ออายุ Mobile ID กับบริษัท ผู้ใช้บริการต้องดำเนินการก่อนที่ Mobile ID เดิมจะสิ้นสุด โดยผู้ใช้บริการจะต้องติดต่อแจ้งความประสงค์ ณ สำนักงานบริการ สำนักงานสาขาของบริษัท หรือผ่านช่องทางหรือวิธีการอื่นใดที่บริษัทจะกำหนดเพิ่มเติม
5.4.3 การต่ออายุ Mobile ID ผู้ใช้บริการตกลงให้ให้บริษัทเก็บรวมรวมใช้และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงอาจมีการบันทึกภาพของผู้ใช้บริการ เพื่อใช้ในการตรวจสอบยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการและตรวจสอบสถานะMobile ID ของผู้ใช้บริการก่อนบริษัทจะดำเนินการตามที่ผู้ใช้บริการร้องขอ
5.4.4 ผู้ใช้บริการตกลงว่าเมื่อผู้ใช้บริการขอต่ออายุ Mobile ID บริษัทจะต้องดำเนินการยกเลิก Mobile ID เดิมของผู้ใช้บริการ และบริษัทจะดำเนินการลงทะเบียน Mobile ID ใหม่ให้กับผู้ใช้บริการ ตามขั้นตอนการลงทะเบียนเพื่ขอ Mobile ID ตามข้อ 3
5.5 การยกเลิก Mobile ID
5.5.1 ผู้ใช้บริการสามารถขอยกเลิก Mobile ID ที่ลงทะเบียนไว้กับบริษัทได้ โดยติดต่อแจ้งความประสงค์ ณสำนักงานบริการ สำนักงานสาขาของบริษัท หรือผ่านช่อทางหรือวิธีการอื่นใดที่บริษัทจะกำหนดเพิ่มเติม
5.5.3 การยกเลิก Mobile ID ผู้ใช้บริการตกลงให้บริษัทเก็บรวมรวมใช้และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงอาจมีการบันทึกภาพของผู้ใช้บริการ เพื่อใช่ในการตรวจสอบยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการและตรวจสอบสถานะ MobileID ของผู้ใช้บริการก่อนบริษัทจะดำเนินการตามที่ผู้ใช้บริการร้องขอ
5.5.4 ผู้ใช้บริการตกลงว่าเมื่อผู้ใช้บริการยกเลิก Mobile ID แล้ว จะไม่สามารถใช้ Mobile ID เดิมได้ หากประสงค์จะใช้ Mobile ID ใหม่จะต้องดำเนินการลงทะเบียน Mobile ID กับบริษัท ตามขั้นตอนการลงทะเบียนเพื่อขอ Mobile ID ตามข้อ 3 ผู้ใช้บริการยอมรับว่าการยกเลิก Mobile ID ถือว่าผู้ใช้บริการไม่ประสงค์จะใช้ Mobile ID ที่ลงทะเบียนไว้กับบริษัท ซึ่งจะมีผลทำให้ผู้ใช้บริการไม่สามารถใช้ Mobile ID ที่บริษัทดำเนินการให้ในการทำธุรกรรมด่างๆ กับผู้ให้บริการทำธุรกรรม (Relying Party) ที่เป็นคู่สัญญากับบริษัทได้ต่อไป อย่างไรก็ตาม การยกเลิก Mobile ID ของผู้ใช้บริการ จะไม่เป็นการลบล้างหรือปลดเปลื้องและยังมีผลผูกพันการกระทำธุรกรรมใด ที่ผู้ใช้บริการได้กระทำไว้โดยการเข้าใช้
6.สิทธิของบริษัทเกี่ยวกับ Mobile ID
6.1 บริษัทมีสิทธิยกเลิก Mobile ID ที่ผู้ใช้บริการได้ลงทะเบียนไว้กับบริษัทได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากผู้ใช้บริการ ในกรณีดังต่อไป
- ผู้ใช้บริการย้ายเครื่อข่ายหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ลงทะเบียน Mobile ID ไว้กับบริษัทไปยังผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายอื่น
- ผู้ใช้บริการถูกตรวจสอบพบว่าไม่มีตัวตนจริง ให้ข้อมูลนเป็นเท็จ ปลอมแปลงเอกสาร หรือข้อมูลหลอกลวงบริษัทในการลงทะเบียน Mobile ID
- หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ผู้ใช้บริการใช้ลงทะเบียน Mobile ID ถูกยกเลิกโดยบริษัท
- หมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกเปลี่ยนโอนเจ้าของ
- ผู้ใช้บริการเสียชีวิต
- ผู้ใช้บริการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล โดยไม่แจ้งความประสงค์จะขอเปลี่ยนข้อมูล Mobile ID
6.2 การยกเลิก Mobile ID ตามข้อ 6.1 จะมีผลทันทีนับแต่ว้นที่บริษัทพบเหตุใดเหตุหนึ่งตามที่ระบุไว้ข้อ 6.1ทั้งนี้ การยกเลิก Mobile ID ตามข้อ 6.1 ไม่มีผลเป็นการปลดเปลื้องหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้บริการจากการทำธุรกรรมออนไลน์ต่างๆ กับบริษัทและหรือกับผู้ให้บริการทำธุรกรรม (Relying Party) รายต่างๆ และในกรณีที่บริษัทและหรือบุคคลใดได้รับความเสียหายจากการกระทำของผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการต้องรับผิดชอบความเสียหายโดยสิ้นเชิงทั้งทางแพ่งและทางอาญา
6.3 กรณีบริษัทมิได้เป็นผู้ให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตน (Identity Provider) ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม เช่น การขอยกเลิกใบอนุญาตการเป็นให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตน (Identity Provider) บริษัทจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการที่ลงทะเบียน Mobile ID ไว้กับบริษัททราบก่อนล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน ทั้งนี้ บริษัทสงวนสิทธิยกเลิก Mobile IDของผู้ใช้บริการได้ทันทีเมื่อพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวทั้งนี้ การยกเลิก Mobile ID ตามข้อ 6.3 จะไม่มีผลเป็นการลบล้างหรือปลดเปลื้องและยังมีผลผูกพันการกระทำธุรกรรมใดๆ ที่ผู้ใช้บริการได้กระทำไว้โดยการเข้าใช้ Mobile ID
7. ความสมบูรณ์ของการใช้บริการ หรือธุรกรรม และผลผูกพันผู้ใช้บริการ
7.1 ผู้ใช้บริการตกลงยอมรับว่าวิธีการดำเนินการใด ของบริษัทตามข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการนี้เป็นวิธีการที่น่าเชื่อถือและยอมรับได้ระหว่างผู้ใช้บริการและบริษัท รวมทั้งรับรองว่าเอกสาร และ/หรือ ข้อมูลใดๆ ที่บริษัทได้รับจากผู้ใช้บริการด้วยวิธีการดังกล่าวนั้นเป็นเอกสาร และ/หรือ ข้อมูลที่เชื่อถือได้และถูกต้องแท้จริงเสมือนเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรทุกประการ และใช้บังคับได้ระหว่างผู้ใช้บริการ บริษัท และผู้ที่เกี่ยวข้อง
7.2 ผู้ใช้บริการรับรองว่ารูปภาพที่บันทึก เอกสาร และ/หรือ ข้อมูลใดๆ ที่บริษัทได้รับ และ/หรือ จะได้รับในภายหน้าจากผู้ใช้บริการเพื่อการทำธุรกรรมหรือดำเนินการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการตามข้อตกลงฉบับนี้ เป็นข้อมูลของผู้ใช้บริการที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นจริงทุกประการ โดยผู้ใช้บริการตกลงยินยอมให้บริษัทจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวไว้ในระบบฐานข้อมูลลูกค้าของผู้ให้บริการ เพื่อประโยชน์ในการให้บริการของผู้ให้บริการ และ/หรือ การใช้ทำธุรกรรม และ/หรือ ใช้บริการอื่นๆ ของผู้ใช้บริการกับบริษัทหากเอกสาร และ/หรือ ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากผู้ใช้บริการไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน หรือไม่เป็นจริง บริษัทมีสิทธิปฏิเสธการให้บริการ หรือระงับ หรือยกเลิกกรทำธุรกรรม และ/หรือ การใช้บริการ และ/หรือบริการอื่นใด โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยบริษัทไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่อย่างใดทั้งสิ้น
7.3 ผู้ใช้บริการตกลงและยอมรับว่าการกระทำใดๆ หากได้กระทำไปโดยการใช้รหัสประจำตัว ตามข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการนี้แล้ว ให้ถือว่าถูกต้องสมบูรณ์และผูกพันผู้ใช้บริกรทุกประการ โดยผู้ใช้บริการไม่ต้องลงลายมือชื่อในเอกสารใดๆ ทั้งสิ้น และผู้ใช้บริการตกลงรับผิดชอบการกระทำดังกล่าวเสมือนหนึ่งว่าผู้ใช้บริการเป็นผู้กระทำด้วยตนเอง ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นโดยผู้ใช้บริการหรือบุคคลใด และไม่ว่าจะด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการตกลงว่าการใช้รหัสประจำตัวถือเป็นการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมาย
7.4 ผู้ใช้บริการตกลงว่า เมื่อบริษัทได้ดำเนินการตามคำขอใช้บริการ และ/รือ รายการการใช้บริการแล้ว ถือว่าบริษัทได้ให้บริการโดยถูกต้องครบถ้วนและมีผลผูกพันผู้ใช้บริการทุกประการ
7.5 ในกรณีที่มีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นแก่บริษั ท และ/หรือ บุคคลใดๆ เนื่องจากการให้บริการหรือการดำเนินการใด ๆ ตามความประสงค์ของผู้ใช้บริการตามข้อกำหนดและเงื่อนขนี้โดยมิใช่ความผิดของบริษัท หรือในกรณีที่ผู้ใช้บริการใช้บริการเพื่อกิจการใดซึ่งขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยหรือศลธรรมอันดีของประชาชนผู้ใช้บริการตกลงยินยอมรับผิดชอบชดใช้บรรดาค่าเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดทุกประการ1.6 ผู้ใช้บริการตกลงให้บริษัทมีสิทธิเพิ่ม เปลี่ยนแปลงข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการฉบับนี้ได้ โดยผู้ใช้บริการตกลงผูกพันปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการดังกล่าวทุกประการ โดยบริษัทจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบผ่านช่องทาง Website และ/หรือ โดยวิธีการอื่นใดที่บริษัทเห็นสมควร ทั้งนี้ไม่ตัดสิทธิผู้ใช้บริการที่จะบอกเลิกสัญญา หากการเพิ่มหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการดังกล่าวเป็นผลให้ผู้ใช้บริการต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือมีภาระความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น
7.7 ผู้ใช้บริการตกลงยอมรับผูกพันและปฏิบัติตามระเบียบ ข้อกำหนดและเงื่อนไข รวมถึงคู่มือ และเอกสารอธิบายวิธีการใช้บริการอิเล็กทรอนิกส์ตามที่ผู้ให้บริการกำหนด ซึ่งผู้ใช้บริการได้รับหรือถือว่าได้รับไว้แล้วในวันที่ทำคำขอใช้บริการ รวมทั้งตามที่ผู้ให้บริการจะได้กำหนดเพิ่มเติม แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงในภายหน้า ซึ่งให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ด้วย
8. การดำเนินการกรณีพบข้อผิดพลาดกรณีที่ผู้ใช้บริการพบว่ามีข้อผิดพลาดหรือมีความผิดปกติใด ในการใช้บริการตามข้อตกลงและเงื่อนไขฉบับนี้ผู้ใช้บริการจะต้องแจ้งให้บริษัททราบโดยเร็วตามช่องทางที่บริษัทกำหนด โดยอย่างน้อยต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับวันและเวลาที่ทำรายการ สถานที่ใช้งานขณะทำรายการ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ ของผู้ใช้บริการและของผู้ที่เกี่ยวข้องประเภทของรายการ รวมทั้งข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวกับการทำรายการที่มีข้อผิดพลาดดังกล่าวตามที่บริษัทกำหนด โดยบริษัทและผู้ใช้บริการจะร่วมมือกันดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและสอบสวนหาสาเหตุของข้อผิดพลาด รวมถึงแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าวโดยเร็ว ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งผลการดำเนินการให้ผู้ใช้บริการทราบตามวิธีการและช่องทางที่บริษัทกำหนด เช่น ทางโทรศัพท์ หรือโดยวิธีการและช่องทางอื่นใดที่บริษัทจะได้กำหนดเพิ่มเติม
9. ความรับผิดและข้อยกเว้นความรับผิดของบริษัท
9.1 บรรดาการกระทำใดๆ ที่บริษัทได้กระทำไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ และ/หรือ ตามข้อมูลที่ผู้ใช้บริการได้แจ้งต่อบริษัท และ/หรือ ตามคำร้องขอของผู้ใช้บริการ และ/หรือ ตามข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริกรใดๆ ของบริษัท ไม่ว่าที่มีอยู่แล้วในขณะนี้หรือที่จะมีขึ้นภายหน้า ให้มีผลผูกพันผู้ใช้บริการทุกประการ และบริษัทไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายใดๆ อันเกิดขึ้นแก่ผู้ใช้บริการ และ/หรือ บุคคลใด1 ไม่ว่าจะโดยประการใดทั้งสิ้น เว้นแต่เกิดจากบริษัทจงใจ หรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงในการให้บริการตามข้อตกลงและเงื่อนไขฉบับนี้
9.2 กรณีงดเว้นการให้บริการใดๆ แก่ผู้ใช้บริการ เมื่อเกิดกรณีอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ผู้ใช้บริการ ตกลงว่า
บริษัทไม่ต้องรับผิดต่อผู้ใช้บริการ และ/หรือ บุคคลใดทั้งสิ้น
(1) มีเหตุอยู่ะหว่างดำเนินการทางกฎหมาย
(2) มีเหตุที่บริษัทได้แจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบถึงความขัดข้องของการทำธุรกรรม และ/หรือ ใช้บริการนั้น
(3) ผู้ใช้บริการไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติผิดข้อกำหนดและเงื่อนไขหรือข้อตกลงกับผู้ให้บริการ
(4) เกิดธุรกรรมการยืนยันตัวตนผิดพลาดต่อเนื่องเป็นจำานวนมาก เสมือนธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นการทำทุจริต
(5)เป็นเหตุสุดวิสัย
10. การบันทึกและการเปิดเผยข้อมูล
10.1 ผู้ใช้บริการรับทราบและตกลงให้บริษัทจัดเก็บ และ/หรือ บันทึก และ/หรือ ประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้บริการ และ/หรือ รายการการใช้บริการ และ/หรือ การดำเนินการใด! ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของผู้ใช้บริการเพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงการบริการของบริษัทและเพื่อเป็นหลักฐานการบริการและรายการใช้บริการ
10.2 ผู้ใช้บริการรับทราบและตกลงให้ผู้ให้บริการเก็บรวบรวม ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดทำรายงาน การดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูล การปรับปรุงบริการ และ/หรือ เพื่อตรวจสอบรายการธุรกรรมที่อาจจะเกิดการทุจริต ธุรกรรมที่มีเหตุนควรสงสัย และ/หรือเพื่อวัตฤประสค์อื่นใดไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย และ/หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่ใช้บังคับกับบริษัท รวมทั้งยินยอมให้ผู้ให้บริการส่ง โอน และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทในกลุ่มของผู้ให้บริการ นิติบุคคลหรือบุคคลใด ที่ผู้ให้บริการเป็นคู่สัญญาหรือมีความสัมพันธ์ด้วย และ/หรือ ผู้ให้บริการ Cloud Computing โดยยินยอมให้ผู้ให้บริการส่ง โอน และ/หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวได้ เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดทำรายงาน การดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับกระบนการวิเคราะห์ข้อมูล ให้ ใช้ และหรือปรับปรุงบริการ
11. ข้อมูลการติดต่อและการส่งคำบอกกล่าวบริษัทจะใช้ช่องทางในการติดต่อแจ้งข้อมูล การสื่อสาร หรือการส่งคำบอกกล่าวใดๆไปยังผู้ใช้บริการ ดังนี้หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ผู้ใช้บริการใช้ในการลงทะเบียน Mobile ID หรือผ่านแอปพลิเคชัน my AIS หรือ ช่องทางติดต่ออื่นๆ ที่บริษัทเห็นสมควรในอนาคต